ศูนย์เพื่อเด็กพิเศษแสงเหนือคือผู้นำด้านการพัฒนาภาษา การสื่อสารแก่เด็กที่มีอายุ 1.5 - 4 ปี รวมถึงเป็นผู้นำในการมอบการบำบัด ดูแล เด็กที่มีความต้องการพิเศษแบบองค์รวมโดยทีมงานสหวิชาชีพแบบครบวงจร
ศูนย์เพื่อเด็กพิเศษแสงเหนือคือผู้นำทางด้านการนำความรู้ ตลอดจนงานวิจัยด้านการศึกษาพิเศษ ประสบการณ์ และแนวทางการช่วยเหลือเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จากต่างประเทศ เพื่อมอบแก่นักวิชาการภายในศูนย์ฯ
ศูนย์เพื่อเด็กพิเศษแสงเหนือก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2552 โดยศูนย์ฯ เติบโตจากการมอบบริการฝึกพูดและพัฒนาภาษาให้แก่ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เป็นบริการหนึ่งของบริษัท อินทิเม็กซ์ ซึ่งได้มอบบริการนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ในระยะแรกเริ่มนั้นผู้มารับบริการได้แก่เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเท่านั้น
ในระยะแรกเริ่มนั้นผู้มารับบริการได้แก่เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเท่านั้น แต่เนื่องด้วยผลจากการประเมินทางภาษาของเด็กที่ได้รับการฝึกนั้นแสดงผลประจักษ์ว่า 40% ของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินนั้นมีความบกพร่องทางด้านอื่นร่วมด้วย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความล่าช้าในการพัฒนาภาษาตามเป้าหมาย ศูนย์บริการเครื่องช่วยฟังอินทิเม็กซ์ ให้ความสำคัญของผลลัพท์การบำบัด ฟื้นฟู จึงมีนโยบายสำคัญ ให้ก่อสร้างศูนย์เพื่อเด็กพิเศษแสงเหนือขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายให้เป็นศูนย์เอกชนแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการบริการแบบครบวงจร มอบให้แก่เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน และเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เป็นศูนย์ที่รวมนักวิชาการ ครู นักบำบัด ทีมงานสหวิชาชีพและครอบครัวเด็กให้ทำงานร่วมกันโดยเน้นผลลัพท์ทางการบำบัด ฟื้นฟูเป็นสำคัญ และมีนโยบายให้ศูนย์เพื่อเด็กพิเศษแสงเหนือ เป็นศูนย์ที่มุ่งเน้นคุณภาพของบุคคลากร โดยเน้นการมอบความรู้ การอบรม การดูงานด้านเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เพื่อส่งเสริมความรู้และประสบการณ์ของทีมงานสหวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นศูนย์บำบัดเด็กที่มีความต้องการพิเศษที่มีคุณภาพ เป็นศูนย์ตัวอย่างในระดับประเทศและในภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
การฝึกพูดโดยใช้การฟัง หรือ Auditory Verbal Therapy (AVT) คือวิธีการสอน บุคคลในครอบครัวให้เรียนรู้วิธีการสอนลูกในเวลาที่อยู่ร่วมกันที่บ้าน ร่วมกับการสอนเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ให้ใช้ทักษะการ “ฟัง” เพื่อการพัฒนาภาษาพูด โดยเด็กจะใช้การได้ยินที่ยังเหลืออยู่ร่วมกับการใช้อุปกรณ์ช่วยการได้ยินได้แก่เครื่องช่วยฟัง อุปกรณ์เอฟ เอ็ม และ ประสาทหูเทียม การฝึกพูดโดยใช้ทักษะการฟังเน้นการใช้การฟัง เพื่อให้เสียงคำพูดเดินทางผ่านอุปกรณ์ช่วยการได้ยิน เข้าไปกระตุ้นสมองของการได้ยิน เพื่อการประมวลผล เพื่อการเรียนรู้ในการพัฒนาภาษาพูดต่อไป การฝึกพูดโดยใช้การฟังนั้นจะได้ผลดีเมื่อเด็กได้รับการวินิจฉัยว่ามีความบกพร่องทางการได้ยินตั้งแต่อายุน้อยๆ ใส่อุปกรณ์ช่วยการได้ยินทันทีที่ทราบผลการวินิจฉัย และเข้าสู่การฝึกในเวลาอันรวดเร็วเพื่อให้สมองในส่วนของการได้ยินนั้นทำงานเช่นเดียวกับเด็กที่มีการได้ยินปกติในวัยเดียวกัน เพื่อให้เด็กสามารถพูดได้ ได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนปกติ และอยู่ในสังคมปกติได้
โปรแกรมการบำบัดของทางศูนย์ฯ มีความเหมาะสมกับเด็กแต่ละบุคคลที่มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะด้านและทักษะของเด็กแต่ละราย ศูนย์ฯ เชื่อเสมอว่าการจัดโปรแกรมบำบัดรักษาโดยยึดกับความต้องการหลักของบุคคลนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์ที่สามารถเป็นไปได้ คือหัวใจสำคัญในความสำเร็จ ของการออกแบบโปรแกรมการบำบัดรักษาในเด็กแต่ละคน
ทางศูนย์ฯ ใช้แบบประเมินที่หลากหลายในการนำแนวทางการให้บริการ และการบำบัดรักษา ซึ่งเป็นแนวทางพื้นฐานในการสร้างแผนการสอน และการบำบัดเป็นรายบุคคล โดยเป้าหมายของการดูแลรักษาเพื่อค้นหาความบกพร่องหลักของความต้องการพิเศษนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาและการพูด การฟัง และอื่นๆ ที่อาจเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง ในการบำบัด ดูแลรักษานั้น ทางศูนย์ฯ จะสอนวิธีการสื่อสาร และการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว สอนให้เรียนรู้ทักษะที่สำคัญที่ควรทำได้เองภายหลังจากที่เสร็จสิ้นจากโปรแกรมของศูนย์ฯ ให้กับเด็กแต่ละคน
ศูนย์เพื่อเด็กพิเศษแสงเหนือมองนอกเหนือไปจากโปรแกรมที่สอน โดยมองถึงสภาพชุมชนของเด็กเหล่านั้น อีกทั้งครอบครัว ซึ่งนั้นถือเป็นกำลังสำคัญในการบำบัดรักษา โดยศูนย์ฯ มอบการบำบัด ดูแล รักษา ให้การสนับสนุน ให้ความรู้และแหล่งข้อมูลต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและเด็กที่มีความต้องการพิเศษทุกประเภท
โปรดตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมของศูนย์ฯ คลิ๊กตรงนี้
Sensory Integration Dysfunction (SI Dysfunction)คือความผิดปกติในการทำงานของสมองในส่วนที่ทำให้เกิดความยากลำบากในการรับรู้ หรือเข้าใจสิ่งที่เข้ามากระตุ้น ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่ได้รับจากการมองเห็น การได้ยิน การรับกลิ่น การรับรส การรับความรู้สึกร้อนหรือหนาว ความรับรู้ความเจ็บ การรับรู้ความรู้สึกของกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ หรือการรับรู้การเคลื่อนไหวและตำแหน่งของร่างกาย